คำถามที่พบบ่อย

1. ศ.ร.ว. มีการสอบกี่ขั้นตอน

ตอบ ประกอบด้วยการสอบสามขั้นตอน ดังนี้

  • ขั้นตอนที่ 1 : เป็นการสอบเพื่อประเมินความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน (Basic MedicalSciences)
  • ขั้นตอนที่ 2 : เป็นการสอบเพื่อประเมินความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก (Clinical Sciences)
  • ขั้นตอนที่ 3 : เป็นการสอบเพื่อประเมินทักษะและหัตถการทางคลินิก (Objective Structured Clinical Examination : OSCE)

2. สามารถสอบ ศ.ร.ว. ได้กี่ครั้ง

ตอบ ยังใม่ได้จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องสอบขั้นตอนที่ 1 และ 2 ให้ผ่านก่อนถึงจะมีสิทธิ์สมัครสอบขั้นตอนที่ 3 ได้

3. สมัครสอบ ศ.ร.ว. ได้อย่างไร

ตอบ สมัครผ่านระบบ online เท่านั้น โดยเมื่อกระบวนการสมัครสอบเสร็จสิ้น ระบบจะให้พิมพ์แบบฟอร์มสำหรับนำไปชำระเงินได้ที่ธนาคารตามที่ระบุ

4. ผู้สมัครสอบสามารถชำระเงินค่าสมัครสอบด้วยทางใด

ตอบ ชำระผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคารตามที่ระบุโดยพิมพ์ใบชำระเงินจากระบบการสมัคร และนำใบชำระเงินไปยื่นกับทางเคาน์เตอร์ธนาคาร เพื่อทำการชำระเงิน ภายในวัน/เวลาที่กำหนดของการสมัครสอบแต่ละครั้ง

5. สามารถเก็บผลการสอบไว้ได้กี่ปี

ตอบ ผลการสอบขั้นตอนที่ 1 และ 2 แต่ละขั้นตอนสามารถเก็บไว้ได้ 7 ปี นับจากวันที่แพทยสภาอนุมัติผลการสอบนั้นๆ จนถึงวันยื่นสมัครสอบขั้นตอนที่ 3 และขั้นตอนที่ 3 สามารถเก็บไว้ได้ 3 ปี นับจากวันที่แพทยสภารับรองผลการสอบ

6. วิธีการเข้าสู่ระบบเพื่อตรวจสอบข้อมูลการสมัครสอบ และสั่งพิมพ์เอกสารการสอบทำอย่างไร

ตอบ

  • กรณี Login ครั้งแรก ท่านสามารถ เข้าสู่ระบบได้โดยการกรอก เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขที่หนังสือเดินทาง (ตามที่ท่านได้ระบุไว้ในขั้นตอนการสมัครสอบ) ลงในช่อง "ชื่อผู้ใช้" และ "รหัสผ่าน"
  • กรณีที่ท่านเคยเข้าใช้งาน และเปลี่ยนรหัสผ่านแล้ว ขอให้ท่านใช้รหัสผ่านใหม่ ตามที่ท่านได้ทำการแก้ไข เพื่อเข้าสู่ระบบ
  • กรณีลืมรหัสผ่าน ท่านสามารถคลิก "ลืมรหัสผ่าน ?" เพื่อขอรับรหัสผ่านโดยระบบจะทำการสร้างรหัสผ่านใหม่ให้กับท่าน และจะทำการส่งรหัสผ่านดังกล่าว ไปยังอีเมล์ที่ท่านได้กรอกไว้ในใบสมัคร

7. กรณีคลิกลืมรหัสผ่าน แล้วไม่ได้รับรหัสผ่านใหม่จะทำอย่างไร

ตอบ อาจมีความผิดพลาดตั้งแต่ครั้งแรกในการกรอกข้อมูลสมัครสอบ เนื่องจากผู้สมัครกรอกอีเมล์ผิด ขอให้ผู้สมัครแจ้งปัญหาที่พบต่อ ศ.ร.ว. หรือส่งข้อมูลมาทางอีเมล์ที่ cma@cmathai.org เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการแก้ไขให้

8. ผู้สมัครสอบต้องการเปลี่ยนแปลง/แก้ไขข้อมูลต่างๆในระบบต้องทำอย่างไร

ตอบ ให้ระบุชื่อ – สกุล และเลขประจำตัวประชาชนพร้อมข้อมูลที่ต้องการแก้ไข ส่งข้อมูลมาทางอีเมล์ที่ cma@cmathai.org เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการแก้ไขให้

9. หลักฐานแสดงตนเองที่ต้องใช้ในวันสอบเพื่อเข้าห้องสอบมีอะไรบ้าง

ตอบ ในการสอบทุกครั้งจะต้องนำบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ และบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ แสดงต่อกรรมการคุมสอบก่อนเข้าห้องสอบ (ผู้ที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ให้ใช้หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ แทนบัตรประจำตัวประชาชน) และวางบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบไว้บนโต๊ะที่นั่งสอบตลอดเวลาของการสอบ บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบที่มีการขีดเขียนข้อความใดๆ ไว้จะถือว่าเป็นการทุจริตในการสอบ

10. สามารถตรวจสอบสถานที่สอบได้อย่างไร?

ตอบ ในการสอบทุกครั้งจะต้องนำบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบ และบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ แสดงต่อกรรมการคุมสอบก่อนเข้าห้องสอบ (ผู้ที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ให้ใช้หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ แทนบัตรประจำตัวประชาชน) และวางบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบไว้บนโต๊ะที่นั่งสอบตลอดเวลาของการสอบ บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบที่มีการขีดเขียนข้อความใดๆ ไว้จะถือว่าเป็นการทุจริตในการสอบ

11. ในวันสอบควรแต่งกายอย่างไร

ตอบ ในการเข้าสอบผู้เข้าสอบจะต้องแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักศึกษา หรือแต่งกายสุภาพ ห้ามสวมเสื้อยืดหรือปล่อยชายเสื้อ และให้สวมรองเท้าหุ้มส้น หากไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัตินี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบ

12. ในวันสอบต้องนำอะไรติดตัวไปบ้าง

ตอบ

  1. หลักฐานแสดงตัวบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางฉบับจริง
  2. ศ.ร.ว. จะเป็นผู้จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนให้ผู้เข้าสอบ ได้แก่ ดินสอดำ 2B และยางลบจึงไม่อนุญาตให้นำอุปกรณ์ใดๆ เข้าห้องสอบยกเว้นนาฬิกาที่ไม่เป็นอุปกรณ์ในการสื่อสารหรือใช้ในการคิดคำนวณ สิ่งของอื่นๆ รวมทั้งกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ (ให้ปิดเครื่องด้วย) ให้วางไว้ในพื้นที่ที่กรรมการกำหนดไว้ ศ.ร.ว. จะไม่รับผิดชอบหากเกิดการสูญหาย ดังนั้นจึงไม่ควรนำสิ่งของมีค่าไปยังสนามสอบ

13. ประกาศผลสอบเมื่อใด

ตอบ ผลการสอบจะออกประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากวันที่สอบ หรือยึดตามประกาศรับสมัครสอบในแต่ละครั้ง

14. ผลการสอบมีวันหมดอายุหรือไม่

ตอบ ผลการสอบขั้นตอนที่ 1 และ 2 แต่ละขั้นตอนมีอายุ 7 มีนับจากวันที่แพทยสภาอนุมัติผลการสอบนั้นๆ จนถึงวันยื่นสมัครสอบขั้นตอนที่ 3 และขั้นตอนที่ 3 มีอายุ 3 ปี นับจากวันที่แพทยสภาอนุมัติผลการสอบ

15. การกำหนดการสอบขั้นตอนที่ 3 ที่มีการแบ่งสอบเป็นรอบๆ นั้น จะทำให้ผู้สมัครสอบรอบแรกได้เปรียบมากว่าผู้สมัครสอบรอบอื่นๆ คือ มีโอกาสได้สอบอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม ดังนั้นถ้าเป็นผู้สมัครสอบรอบอื่นๆ จะเสียเปรียบหรือไม่

ตอบ ศ.ร.ว.จะจัดสอบให้ผู้สมัครสอบขั้นตอนที่ 3 ทั้งหมดได้สอบอย่างน้อย 1ครั้งในการสอบที่จัด 3รอบ และจะจัดสอบรอบที่ 4 เพิ่มเติมอีกสำหรับผู้ที่สอบไม่ผ่าน และผู้ที่เพิ่งมีคุณสมบัติครบในการสอบขั้นตอนที่ 3 ดังนั้นแทบทุกคนจะมีโอกาสได้สอบ 2 ครั้ง ไม่น่าจะเป็นการเสียเปรียบ

16. หากมีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุล หลังจากที่ได้สมัครสอบไปแล้วจะยื่นคำร้องขอแก้ไขได้หรือไม่

ตอบ ในกรณีที่มีการเปลี่ยน ชื่อ หรือนามสกุล หลังจากที่ได้สมัครสอบไปแล้ว ให้ระบุชื่อ – สกุล และเลขประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนาการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ส่งข้อมูลมาทางอีเมล์ที่ cma@cmathai.org เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการแก้ไขให้

17. ข้อสอบเป็นภาษาใด

ตอบ สำหรับขั้นตอนที่ 1 และ 2 ข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดยกเว้นข้อสอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์เฉพาะทางด้านกฎหมายไทยหรือนิติเวชศาสตร์ อนุโลมให้ใช้เป็นภาษาไทย สำหรับขั้นตอนที่ 3 เป็นการสอบภาคปฏิบัติ จึงต้องใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร

18. ถ้ากำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 ในสถาบันต่างประเทศสามารถสมัครสอบขั้นตอนที่ 1 ได้หรือไม่

ตอบ ถ้ามีคุณสมบัติและมีใบรับรองจากสถาบันการศึกษาว่า ได้ศึกษาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน (ระดับปรีคลินิก) หรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีการศึกษานับถึงวันกำหนดสอบฯ โดยได้ศึกษาครบทุกรายวิชาตามหลักสูตรระดับปรีคลินิกของสถาบันการศึกษาที่แพทยสภารับรองก็สามารถสมัครสอบได้